พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท (9 กรกฎาคม พ.ศ. 2351 – 14 สิงหาคม พ.ศ. 2414) เป็นพระราชโอรสลำดับที่ 49 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเป็นต้นราชสกุลสนิทวงศ์
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท มีนามเดิมว่า พระองค์เจ้าชายนวม ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาปรางใหญ่ พระสนมเอก ธิดาท่านขรัวยายทองอิน เมื่อวันเสาร์ เดือน 8 แรม 2 ค่ำ ปีมะโรง สัมฤทธิศก จ.ศ. 1170 ตรงกับวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2351 ทรงได้รับการศึกษาเบื้องต้นตามแบบฉบับของราชสำนักและผนวชเป็นสามเณร ได้รับการศึกษาในสำนักสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ทรงได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านอักษรศาสตร์ ทั้งอักขรวิธีภาษาไทย อักษรเขมร และภาษาบาลี รวมทั้งวรรณคดี วิชาโบราณคดีและราชประเพณี
ต่อมาทรงเข้ารับราชการในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกำกับกรมหมอหลวง และทรงศึกษาวิชาการแพทย์สมัยใหม่จากมิชชันนารีชาวอเมริกัน โปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นกรมหมื่นวงศาสนิท เมื่อครั้นปี พ.ศ. 2392 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชปรารภ ถึงความเสื่อมโทรมของภาษาไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้านวม ทรงแต่งตำราภาษาไทยขึ้นใหม่ เพื่ออนุรักษ์ภาษาไทย พระนิพนธ์เรื่อง “จินดามณี เล่ม 2” ซึ่งทรงดัดแปลงจากตำราเดิมสมัยอยุธยา อธิบายหลักเกณฑ์ภาษาไทยให้เข้าใจง่ายกว่าเดิม ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ เลื่อนขึ้นเป็นกรมหลวงวงศาธิราชสนิท ทรงกำกับราชการมหาดไทย ว่าพระคลังสินค้า และเป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน ทรงเป็นเจ้านายหนึ่งในสี่พระองค์ ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงหมายจะให้สืบราชบัลลังก์ต่อจากพระองค์
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท สิ้นพระชนม์ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อวันพุธ เดือน 10 ขึ้น 6 ค่ำ ปีมะเมียโทศก ตรงกับวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2414 สิริพระชันษา 63 ปี พระราชทานเพลิงพระศพ ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2414
ในปี พ.ศ. 2550 กระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอพระนาม พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท ในโครงการเฉลิมฉลองบุคคลสำคัญและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของ ยูเนสโก ด้านปราชญ์และกวี ประจำปี 2551-2552 ในวาระครบรอบ 200 ปีของการประสูติ องค์การยูเนสโกได้มีมติรับรองในการประชุมเมื่อวันที่ 18-23 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ที่กรุงปารีส
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้านวม เป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๔๙ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) และองค์ที่ ๒ ในเจ้าจอมมารดาปราง (ใหญ่) สายราชินิกุลบางช้าง ประสูติเมื่อวันเสาร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะโรง จุลศักราช ๑๑๗๐ ตรงกับวันที่ ๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๓๕๑ ก่อนสิ้นรัชกาลที่ ๑ เพียง ๑ ปี ในปีที่พระองค์ประสูตินั้น มีบุคคลสำคัญที่ “เกิดร่วมสหชาติ” กับพระองค์อีก ๓ ท่าน ซึ่งต่อมาได้มีบทบาทสำคัญในการบริหารแผ่นดินร่วมสมัยกับพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ ๔ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในรัชกาลที่ ๕ และเจ้าพระยาภูธราภัย (นุช บุณยรัตพันธุ์) สมุหนายก ในรัชกาลที่ ๔
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ทรงเข้ารับราชการกำกับกรมหมอในรัชกาลที่ ๓ และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกรมหมื่นวงศาสนิท ทรงศึกษาวิชาการแพทย์สมัยใหม่จากมิชชันนารีอเมริกัน ถึงแผ่นดินรัชกาลที่ ๔ ทรงกำกับราชการมหาดไทย ว่าพระคลังสินค้า และเป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดินด้วย ในรัชกาลที่นี้ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกรมหลวง ทรงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการศึกษาและการเมือง ในระดับนานาชาติเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประเทศชาติรอดพ้นจากการตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก ทรงเป็นนักอักษรศาสตร์ นักปราชญ์ กวี นักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพ นักวิทยาศาสตร์ นักการทูตพระองค์สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันพุธ เดือน ๑๐ ขึ้น ๖ ค่ำ ปีมะเมีย โทศก ตรงกับวันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๑๔ รวมพระชันษาได้ ๖๓ ปี ทรงเป็นต้นราชสกุลสนิทวงศ์
พระกรณียกิจของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท มีหลากหลายประการ ซึ่งนอกจากการบริหารราชการแผ่นดินดังกล่าวแล้ว ยังประกอบด้วยพระกรณียกิจด้านวรรณกรรมและการศึกษา ได้แก่ ทรงพระนิพนธ์นิราศพระประธม เพลงยาวสามชาย เพลงยาวกลบทสิงโตเล่นหาง พงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ที่ทรงนิพนธ์ขึ้นตามพระราชบัญชาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หนังสือจินดามณีฉบับพระนิพนธ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท หรือประถมจินดามณี เล่ม ๒ พระกรณียกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ได้ทรงแต่งตำราสรรพคุณยาสมุนไพรไทย จำนวน ๑๖๖ ชนิด เป็นตำราสมุนไพรเล่มแรกของไทยที่เขียนแบบเอกสารทางวิชาการ แจกแจง และวิเคราะห์ส่วนต่าง ๆ ของพืชสมุนไพรแต่ละชนิด ทรงเป็นแพทย์ไทยพระองค์แรกที่ได้รับประกาศนียบัตรถวายเป็นพระเกียรติยศจากสถาบันการแพทย์ของยุโรป และได้รับเชิญให้เป็นสมาชิกของสถาบันการแพทย์แห่งนิวยอร์ก ชาวต่างชาติในสยามเรียกขานพระองค์ว่า The Prince Doctor อีกทั้งพระองค์ยังทรงจารึกคำประพันธ์ไว้บนแผ่นหิน บรรยายถึงการบำบัดโรคด้วยสมุนไพร และการออกกำลังกายในท่าต่าง ๆ ที่เรียกว่า ฤๅษีดัดตน ที่มีเรียงรายอยู่ในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ในด้านการต่างประเทศทรงเป็นประธานในการเจรจาทำสนธิสัญญาทางไมตรีจิตและพาณิชย์ระหว่างอังกฤษกับไทยในช่วงที่บ้านเมืองกำลังเผชิญปัญหาการคุกคามจากจักรวรรดินิยมตะวันตก รวมทั้งการต้องเป็นแม่ทัพหลวงไปทำสงครามเมืองเชียงตุงด้วย
ด้วยพระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพ กอปรทั้งพระดำริที่ทรงมุ่งมั่นประกอบพระกรณียกิจอันยังประโยชน์นานัปการให้แก่ประชาชนชาวไทย และประเทศชาติ สืบทอดมาถึงปัจจุบัน ดังนั้นในพุทธศักราช ๒๕๕๑ องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศยกย่องพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลกที่สนับสนุนการสถาปนาสันติวัฒนธรรม โดยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างอารยธรรม ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ในการส่งเสริมการสมานฉันท์ในสังคม ความเข้าใจ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความสำเร็จในการเจรจาทางการทูตและการปฏิสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรม ทำให้ทรงเป็นที่รู้จักในเอเชีย ยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะนโยบายด้านการต่างประเทศโดยใช้วัฒนธรรมและสันติภาพ ทำให้ประเทศไทยหรือสยาม ทำสนธิสัญญากับประเทศต่าง ๆ ได้
ในโอกาสที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ทรงมีพระชนมายุครบ ๒๐๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศยกย่องให้พระองค์ท่านเป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้านปราชญ์และกวี (Scholar & Poet)เป็นบุคคลลำดับที่ ๑๘ ของประเทศไทยที่ได้รับการประกาศยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท พระนามเดิม พระองค์เจ้านวม เป็นพระราชโอรสพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยประสูติแต่เจ้าจอมมารดาปรางใหญ่ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2351
พระองค์เจ้านวมทรงได้รับการศึกษาเบื้องต้นจากเจ้านายสตรีในพระบรมมหาราชวัง เมื่อทรงโสกันต์แล้วได้ทรงผนวชเป็นสามเณรในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นศิษย์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
พระองค์เจ้านวมทรงศึกษาวรรณคดี ศาสนา โบราณราชประเพณี และทรงศึกษาวิชาทางแพทย์แบบดั้งเดิมจากพระมารดาและขรัวตาขรัวยายซึ่งเป็นแพทย์แผนโบราณแห่งตำบลบางช้าง เมืองสมุทรสงคราม ทั้งยังทรงศึกษาเพิ่มเติมจากหมอหลวงและตำราต่าง ๆ จนทรงมีความรู้ทางแพทย์แผนโบราณเป็นอย่างดี ในพ.ศ. 2371 ทรงเริ่มศึกษาความรู้ตามแบบตะวันตกจากคณะมิชชันนารี ได้ทรงศึกษาภาษาอังกฤษและความรู้อื่น ๆ โดยเฉพาะวิชาการแพทย์ ในพ.ศ. 2373 ได้ทรงศึกษาจากนายแพทย์แดนบีช บรัดเล (หมอบรัดเล) และคณะ ซึ่งเป็นมิชชันนารีคณะต่อมา พระองค์เจ้านวมได้ทรงพยายามประยุกต์ความรู้ทางการแพทย์ตะวันตกเข้ากับการแพทย์ดั้งเดิมของไทยในการรักษาโรคต่าง ๆ
พ.ศ. 2385 ตำแหน่งเจ้ากรมหมอหลวงว่างลง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาให้พระองค์เจ้านวมเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวงศาธิราชสนิท ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมหมอหลวง ต่อมาพ.ศ. 2394 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท
กรมหลวงวงศาธิราชสนิททรงมีบทบาทสำคัญในการทำให้การแพทย์แผนใหม่เป็นที่รู้จักและยอมรับมากขึ้น นอกจากราชการกรมหมอหลวงแล้วยังทรงได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการในกรมอื่น ๆ ด้วย เช่น ทรงกำกับราชการกรมมหาดไทยและพระคลังสินค้า ทรงเป็นแม่ทัพหลวงในสงครามเชียงตุง ทรงเป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน และเป็นพระอาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
กรมหลวงวงศาธิราชสนิทสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2414 พระชนมายุได้ 64 ปี ทรงเป็นต้นราชสกุลสนิทวงศ์
ในพ.ศ. 2551 เนื่องในวาระฉลองวันประสูติครบ 200 ปี องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศยกย่องพระเกียรติคุณให้กรมหลวงวงศาธิราชสนิททรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาปราชญ์และกวี
พระกรณียกิจของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท มีหลากหลายประการ ซึ่งนอกจากการบริหารราชการแผ่นดินดังกล่าวแล้ว ยังประกอบด้วยพระกรณียกิจด้านวรรณกรรมและการศึกษา ได้แก่ ทรงพระนิพนธ์นิราศพระประธม เพลงยาวสามชาย เพลงยาวกลบทสิงโตเล่นหาง พงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ที่ทรงนิพนธ์ขึ้นตามพระราชบัญชาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หนังสือจินดามณีฉบับพระนิพนธ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท หรือประถมจินดามณี เล่ม ๒ พระกรณียกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ได้ทรงแต่งตำราสรรพคุณยา
Comments are closed