ซุย ซุย วิน หมอดูอีที

jumbo jili

หมอดูอีที ซุย ซุย วิน เป็นหญิงชาวพม่า อายุ 42 ปี ชื่อ อีที (ET) เป็นคำย่อของ อีติ (E Thi) หรือ มะขุ่ย ลักษณะร่างกายนั้น เป็นหญิงรูปร่างเล็ก เป็นใบ้ หลังค่อม นิ้วคด เท้าพลิก มือเกร็ง ว่ากันว่าหมอดูอีทีคนนี้ สามารถทำนายโชคชะตา ดูดวงบ้าน ดูดวงเมือง ได้แม่นราวกับตาเห็น ซึ่งบรรดานักการเมืองระดับบิ๊กเบิ้มจากทั่วโลก ต่างเดินทางมาให้หมอดูอีที ช่วยทำนายดวงให้ ไม่เว้นแม้แต่นักการเมืองไทย หรือนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของบ้านเรา โดยอัตราการดูหมอนั้น คิดค่าบริการครั้งละ 1,000 US คิดเป็นเงินไทยประมาณ 30,000 บาท ส่วนคิวการดูดวงกับหมอดูอีทีนั้น ต้องต่อคิวยาวหลายเดือน

สล็อต

นอกจากนี้ การดูดวงของหมอดูอีที ไม่ใช่แบบที่เราพบเห็นทั่วไป เช่น เตือนให้ระวังของหาย จะแต่งงานเมื่อไร จะป่วยเป็นอะไรหรือไม่ แต่หมอดูอีทีจะทำนายในลักษณะ เช่น การงานจะมีคนอุปถัมภ์หรือไม่ เป็นชายหรือหญิง งบที่ขอไปจะผ่านหรือไม่ บริษัทจะเป็นอย่างไร งานไหนจะได้ดี งานไหนประมูลได้ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละเคสของการดูดวงของหมอดูอีทีนั้น จะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที หรือประมาณ 7-8 คำถามต่อคน เท่านั้น ส่วนที่หมอดูอีทีสร้างความทึ่งให้กับผู้คนอย่างมากก็คือ การทำนายเลขแบงค์ ไม่ว่าแบงค์ดอลล่าร์ หรือแบงค์ประเทศอะไร หมอดูอีที ทำนายได้ตรงเป๊ะ ๆ ทุกตัว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ หมอดูอีทีได้ทุ่มเงินที่ได้จากการทำนายดวงชะตา นำมาก่อสร้างโรงพยาบาลชุมชนขนาดกลาง มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ในนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่ชาวพม่าผู้ยากไร้ โดยได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา (2554) และมีข่าวแว่ว ๆ ว่า หมอดูอีที อาจจะเลิกดูดวงก่อนที่โรงพยาบาลจะสร้างเสร็จ
หมอดูอีทีเป็นหญิงรูปร่างเล็ก เป็นใบ้ หลังค่อม นิ้วคด เท้าพลิก มือเกร็ง แต่ว่าพรสวรรค์ที่เธอได้มานั้นช่างแตกต่างจากร่างกายเหลือเกิน พิสูจน์ได้จากการทำนายเลขแบงค์ ไม่ว่าจะเป็นแบงค์ดอลล่าร์ หรือแบงค์ประเทศอะไร หมอดูอีทีก็จะทำนายได้อย่างตรงเป๊ะ ๆ ทุกตัว
หมอดูอีทีเกิดในครอบครัวสามัญชนธรรมดา คุณพ่อเป็นผู้จัดการธนาคาร และหมอดูอีทีไม่ได้พิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่มีพัฒนาช้ากว่าเด็กทั่วไปถึง ๒ ปี ซึ่งพ่อแม่มารู้อาการแบบชัวร์ๆเมื่อตอนที่หมอดูอีทีอายุได้ ๙ ขวบ
จากนั้นความน่าอัศจรรย์ที่ก่อให้เกิดญาณทิพย์ เกิดขึ้นเมื่อหมอดูอีทีมีอายุย่างเข้า ๑๕ ปีหลังจากที่เข้าไปไหว้พระก็เกิดอาการไม่สบายเอามากๆ แล้วอยู่ๆ หูก็หนวกไม่ได้ยิน จากที่เคยพูดได้ปกติก็ไม่ได้สามารถพูดได้กลายเป็นใบ้ไปเลย
แต่สิ่งพิเศษที่เพิ่มเข้ามาคือเมื่อหมอดูอีทีเริ่มหูหนวกไม่ได้ยินมากขึ้นเท่าไหร่พลังญาณทิพย์ก็มีมากขึ้นเท่านั้น สามารถมองเห็นอนาคตได้พูดอะไรก็ถูกไปหมด ซึ่งความสามารถดูดวงเริ่มต้นเมื่อตอนอายุ ๙ ขวบจากนั้นพลังก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีความสามารถพิเศษอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าหมอดูอีทีสามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่น แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิตปกติเพราะหมอดูอีทีกลายเป็นคนพิการต้องนั่งรถเข็ญตลอดเวลาทั้งที่ก่อนหน้านี้ชีวิตก็ปกติสุขไม่มีความพิการแต่อย่างใด
ทั้งนี้ความพิการที่เกิดขึ้นหมอดูอีทีเคยกล่าวเอาไว้ว่าชาติก่อนเคยหักมือแม่ ชาตินี้ก็เลยพิการ ซึ่งขณะนั้นอายุได้ ๒ ขวบ หมอดูอีทีระลึกชาติได้จึงพูดว่าอดีตชาติเคยหักมือแม่พอแม่ตายไป เมื่อโตขึ้นก็ไปเป็นมัคทายกของวัด แล้วถูกโจรที่มาปล้นวัดเอาน้ำร้อนมาลวกทั้งตัว เมื่อเกิดมาเกิดชาตินี้ก็เลยเกิดมาในร่างกายที่ไม่สมบูรณ์
ส่วนความสามารถทำนายทายทักได้อย่างแม่นยำเหมือนมีพรายกระซิบนั้น หมอดูอีทีบอกว่ามีแม่ที่เป็นเทวดาดูแลอยู่ และแม่ที่เป็นเทวดาก็เป็นคนบอกคำทำนายกับตนเองเพื่อให้ไปบอกคนดูดวงต่อ โดยตอนเด็กๆ หมอดูอีทีไม่ต้องอ่านหนังสือเลย แต่สามารถสอบได้ที่หนึ่งตลอด เพราะแม่เป็นคนบอก
ด้านคำทำนายเกี่ยวกับการเมืองที่ทำให้คนไทยจดจำคือได้ทำนายเอาไว้ก่อนการจะมีการเลือกตั้งในปี ๒๕๔๔ ว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรจะตั้งพรรคใหม่สำเร็จ จะชนะ และเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แต่ฟ้าไม่ปรานี ต้องจรลีไปต่างถิ่นต่างแดน อีกทั้งดวงถึงขั้นชะตาขาด แนะนำให้แก้เคล็ดเสริมดวง
โดยทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เพื่อต่อดวงชะตาที่กำลังจะขาดให้กลับคืน มา เริ่มจากท่องมนต์บทสวด แล้วเดินวนรอบเจดีย์ชเวดากองไปทางซ้าย ๓ รอบ ขวา ๓ รอบ จากนั้นก็ต้องไปทำพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ชุดใหญ่ในถิ่นที่ทุรกันดาร

สล็อตออนไลน์

จากนั้นประมาณเดือนสิงหาคม ๒๕๔๗ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปทัวร์นกขมิ้นภาคอีสานและภาคใต้,เดือนสิงหาคม ๒๕๔๙ จัดทัวร์นกขมิ้นอีกครั้งไปภาคอีสานและภาคเหนือ ว่ากันว่าการทัวร์นกขมิ้นนี้คือการแก้เคล็ดจากคำทำนายของหมอดูชาวพม่าคนนี้
ซึ่งภายหลังจากการเลือกตั้งสำเร็จในปี ๒๕๔๔ ไม่มีวี่แววว่าความนิยมของ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะลดลง แต่แล้วก็กลับถูกกลุ่มคนเสื้อเหลืองเข้าต่อต้าน และถูกปฏิวัติรัฐประหารวันที่ ๑๙ ก.ย. ๒๕๔๙ จนไม่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้
ส่วนคำทำนายก่อนสิ้นใจได้พยากรณ์เอาไว้ว่า “จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ และมีสงครามโลก”
ซึ่งก่อนที่หมอดูอีที จะสิ้นใจที่บ้านพักของตนเองในย่างกุ้ง เธอได้ฝากข้อความสุดท้ายเอาไว้เตือนทุกคนให้อยู่ที่สูงๆไว้ น้ำกำลังจะท่วมใหญ่ ใครไม่เชื่อตายอย่างเดียว จะมีสงครามโลก ให้เก็บข้าวสารอาหารแห้งไว้เยอะๆ
ในยุคปัจจุบันที่มีความผันผวนทางการเมืองในไทย เเละสถานการณ์โลกที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ในเเต่ละวัน เรียกว่าจะเเทบทุกหย่อมหญ้าในโลก ที่ถูกสื่อออนไลน์เเพร่กระจายข่าว จนผู้คนเกิดความ สับสน มึนงง ตื่นกลัว กับเหตุการณ์ที่รู้กันฉับไว จนเเทบจะเรียกได้ว่า กลัวโลกออนไลน์ ที่ไปไวมากกว่าที่คิด ในทุกวันนี้ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ราวกับถูกใครบางคน ขีดเส้นชะตาไว้ ทำให้นึกถึง คำทำนาย จากหมอดูดังๆที่มีมาตั้งเเต่อดีต ได้ทำนายกันไว้ล่วงหน้า เเม้เจ้าตัวไม่อยู่เเล้ว ผลของคำทำนายก็ส่งผลให้โลกเป็นไปตามนั้นจริงๆ จะเกิดจาก การเดาที่บังเอิญถูกต้อง การเเปลความหมายคำทำนายของคนรุ่นหลังเองให้ไปสอดคล้องคำทำนายนั้นๆ เพื่อให้เกิดกระเเสบางอย่างในโลก หรือจะเป็นการมองเห็นจริง ของนักทำนายเอง ก็ยังเป็นเรื่องที่สุดจะคาดเดา เเม้กระทั่งในปัจจุบันต้องยอมรับว่า ชั่วโมงนี้หมอดูคนนี้ กำลัง “ดัง” ที่สุด
“หมอดูอีที” หมอดูชาวพม่า หรือ ชื่อจริง “ซุย ซุย วิน” อีที (ET) เป็น

jumboslot

คำย่อของ
อีติ (E Thi) หรือ มะขุ่ยลักษณะร่างกายนั้น เป็นหญิงรูปร่างเล็ก เป็นใบ้ หลังค่อม นิ้วคด เท้าพลิก มือเกร็ง อาศัยอยู่ในบ้านธรรมดา เขตติงกานจูน (Thingangyun) รอบนอกกรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า หมอดูอีทีในวัย 53 ปี 8 เดือน พิการมือเท้าหงิก พูดไม่ได้ แต่สามารถดูดวงได้แม่นราวกับตาเห็น หมอดูอีทีจะดูดวงผ่านการอ่านปากของ “มะตีตี้” ผู้เป็นน้องสาว และเขียนบนกระดาษ ความไม่ธรรมดาทำให้หมอดูรายนี้โด่งดังไปทั่วโลก ดังขนาดที่ว่านักธุรกิจ นักการเมือง และคนใหญ่คนโตจากทั่วโลกต้องบินไปดูดวงด้วย ซึ่งแต่ละเดือนหมอดูอีทีโกยเงินเข้ากระเป๋าจากการทำนายดวงได้มากกว่า 350 ล้านบาทเลยทีเดียว
ซึ่งนอกจากเรื่องส่วนตัวอดีตชาติของหมอคนนี้จะน่าสนใจ เเละอธิบายที่มา ที่ไปของหน้าตา และลักษณะร่างกายที่ไม่สมประกอบได้ จากการไปดู ไปเห็นมาด้วยตัวเอง สิ่งที่กำลังสร้างชื่อเสียงให้หมอดูคนนี้มากๆในเมืองไทย ตอนนี้คือ คำทำนายเรื่องการเมือง ในประเทศไทย ที่บรรดานักการเมืองไทยที่มีชื่อเสียง ทั้งที่ผ่านมา และ(เขาว่า)จะขี้นเเท่น นายกรัฐมนตรีคนต่อไป หลังคสช.หมดยุค ก็เรียกรอยยิ้มให้พรรคการเมืองที่หนุนหลังอยู่ในตอนนี้ได้ เเต่จะจริงขนาดไหน สมราคาค่าชวนคุยที่เรียกเก็บเงินเป็นนาทีหรือเปล่า ก็ต้องเป็นเรื่องที่คนไทยเราคอยดูต่อไป
ซึ่งจริงๆจะเห็นว่า ไม่ใช่เเค่ฝรั่ง หรือคนไทย ที่ตื่นตัว เชื่อเรื่องคำนาย หากจะบอกว่าเป็นเเค่เรื่องงมงาย ก็ยังพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะเรื่องการทำนายทายทัก ในทางพุทธศาสนาจริงๆมีบันทึกไว้ เเละยังน่าสนใจเสียด้วย ว่าเป็นถึง ศิลปศาสตร์ 1 ใน 18 อย่างที่พระพุทธเจ้าสมัยที่เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ยังไม่ได้ออกบวช ทรงได้รับการศึกษาเป็นอย่างดี จากอาจารย์ที่มีชื่อเสียง คือ อาจารย์วิศวามิตร
เเต่ศาสตร์ทั้งหมดนี้ ก็ยังสู้สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านค้นพบหลังตรัสรู้เเล้วไม่ได้ โดยจะเห็นจากเรื่องราวตอนหนึ่งในพระไตรปิฏก ที่ได้กล่าวถึงนักทำนาย คนหนึ่งในสมัยพุทธกาลที่โด่งดัง และมีชื่อเสียงมาก และน่าจะมากกว่า นอสตราดามุสของฝรั่ง
จนถึง หมออีที สมัยนี้ก็ได้ เพราะทำนายได้เเม้กระทั่งกระดูกคนตาย คือ ท่านพระวังคีสะ ซึ่งมีประวัติที่น่าสนใจว่า ท่านเกิดในสมัยพุทธกาล ตระกูลพราหมณ์ในพระนครสาวัตถี เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียน ตามคัมภีร์ในลัทธิของพราหมณ์ จนจบไตรเพท และได้เรียนมนต์พิเศษ อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ฉวสีสมนต์ เป็นมนต์สำหรับพิสูจน์ กะโหลกซากศพ แม้ตายแล้วตั้งสามปี สามารถรู้ว่า ไปเกิดเป็นอะไร ณ ที่ไหน
และวังคีสพราหมณ์ ได้อาศัยมนต์นั้นเป็นเครื่องเลี้ยงชีพไปตามเมืองต่างๆ พวกพราหมณ์ทั้งหลายที่สมัครใจมาเป็นบริวารท่าน ก็อาศัยการติดตามท่าน ออกเที่ยวหากินโดยใช้วิธีทำนาย ทายทัก เอาเล็บเคาะที่ศรีษะ กะโหลก ของคนที่ตายเเล้ว เพื่อบอกว่า ตายแล้วไปเกิดอยู่ที่ไหน ผู้คนก็สนใจ มาให้ทำนายกันเป็นจำนวนมาก ได้เงินทองมากมาย จนวันหนึ่งระหว่างทางเห็นคนมากมายเดินทางไปกราบไหว้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พวกพราหมณ์ผู้ติดตามจึง พาท่านไปประลองฤทธิ์กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำนายลักษณะกระโหลกของคนตาย 5 กระโหลก ท่านวังคีสะ ทำนายได้เพียง 4 อีกหนึ่งทำนายไม่ได้ เนื่องจาก เป็นกระโหลกของพระอรหันต์ เเต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทำนายได้ วังคีสพราหมณ์จึงออกบวช เพราะอยากเรียนมนต์นั้น หลังอุปสมบทแล้ว พระบรมศาสดาทรงประทานกรรมฐาน มีอาการสามสิบสอง เป็นอารมณ์ ตรัสสั่ง ให้ท่องบ่น บริกรรมซึ่งมนต์นั้น ผ่านไปสองสามวันเท่านั้น ท่านพระวังคีสะ ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคล ในพระพุทธศาสนา และทรงทราบว่ามนต์ที่ท่านเรียนมาเเต่เเรก สู้มนต์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานให้ไม่ได้เลย เพราะทำให้ ไม่ต้องกลับ มาเกิด เเก่ เจ็บ ตาย อีกครั้ง ดังนั้นเวลาท่าน ไปเฝ้าพระบรมศาสดาในที่ใด เวลาใด ย่อมกล่าวคาถาสรรเสริญพระคุณของพระองค์บทหนึ่ง ๆ ก่อนเสมอ

slot

การดูดวงของหมอดูอีที ซุย ซุย วิน ลูกค้าไม่สามารถสื่อสารกับหมอดูได้โดยตรง เนื่องจากหมอดูอีทีเป็นใบ้ หมอดูอีทีจะทำนายโดยให้น้องสาว และญาติๆ ที่พูดภาษาอังกฤษได้เป็นล่าม ผ่านการอ่านปากของหมอดูอีที แล้วญาติจะเขียนใส่กระดาษให้กับผู้ที่รับการทำนาย ส่วนฐานะการเป็นอยู่ของหมอดูอีทีนั้น แม้ฐานะร่ำรวยแต่ก็อาศัยอยู่ในบ้านธรรมดา
รายได้ส่วนหนึ่ง หมอดูอีที ซุย ซุย วิน นำกลับคืนสู่สังคม ล่าสุดเริ่มโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลชุมชนขนาดกลางมูลค่า 100 ล้านบาท ในนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า จุดมุ่งหมายเพื่อรักษาพยาบาลแก่ชาวพม่าผู้ยากไร้ ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา พร้อมกับมีข่าวลือว่าหมอดูอีที อาจจะเลิกดูดวงก่อนที่โรงพยาบาลจะสร้างเสร็จ

Comments are closed